แจกแพลนเที่ยวไต้หวัน

6 วันงบ 13,000 บาท
ครั้งนี้คือการมาเที่ยวไต้หวันครั้งที่ 2 ของเรา จากที่เคยมารอบแรกก่อนโควิดแล้วชอบมากกก รอบนี้เริ่มจากที่กดเจอตั๋วเครื่องบินราคาถูกมาก เลยกดมาเที่ยวคนเดียวเลยแบบไม่คิดมาก ถึงแม้จะเป็นช่วง low season เดือนกรกฏา ช่วง summer ที่อากาศร้อนเหมือนไทย
ทริปนี้มีเวลา 6 วัน เราวางแพลนว่าจะไปเที่ยวที่ Alishan และ Sun moon lake ให้ได้ และก็อยากไปเก็บที่เที่ยวโซน Keelung เลียบชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของไต้หวันด้วย เพราะเคยเห็นหลายคนรีวิวแล้วสวยมากก เราเลยจะเน้น 3 ที่นี้ และมีไทเปเป็นแค่เมืองไว้แวะเดินเล่น พักผ่อนชิวๆ แพลนทริปที่จัดไว้เลยเป็นประมาณนี้
Day 1 : Arrive Taipei – Ximending
Day 2 : Keelung day trip
Day 3 : Chill in Taipei
Day 4 : Taipei – Alishan
Day 5 : Alishan – Sun moon lake
Day 6 : Sun moon lake – Taipei
โดยการเดินทางทั้งหมดขอสรุปไว้ให้ประมาณนี้นะ ถ้าอยู่ในไทเปเราจะใช้ metro เป็นหลักเลย อาจมีบางที่ต้องใช้ Bus ตามความสะดวก ซึ่งสามารถดูใน google map ได้เลยว่าต้องขึ้นสายไหน ลงตรงไหน วันที่ออกไปทาง keelung ก็นั่งรถไฟ TRA (เป็นรถไฟวิ่งข้ามเมืองแบบช้า) ส่วนวันที่ไป Alishan และวันกลับ เราใช้รถไฟ HSR เป็นรถไฟความเร็วสูง ส่วนการเดินทางจาก Alishan-Sun moon lake ก็นั่งบัสตรงได้เลย เอาล่ะ มาเริ่มเที่ยวกัน

Day 1 : ตะลุยกิน Ximending

มาเริ่มที่ Day 1 กันเลย เรามาถึง Taipei ช่วงเย็นๆประมาณ 4 โมง วันนี้ก็เลยไม่มีอะไรมากนอกจากนั่งรถไฟเข้าเมืองและเดินเล่นชิวๆ แนะนำว่าการเดินทางจากสนามบิน Taoyuan เข้าเมือง ให้นั่งรถไฟ Airport MRT เข้ามาเลย สะดวกและราคาไม่แพง ประมาณ 150 บาทก็มาถึงที่ Taipei main station
จากนั้นเราก็เข้าที่พักที่ Ximending มาคนเดียวเราเลยเลือกพักเป็น Hostel ชื่อว่า Meander โดยรวมถือว่าสะดวก สะอาดและราคาดีมาก เตียงนอนก็เป็น bunk bed ธรรมดาแบบโฮสเทล แต่ส่วนกลางชั้นล่างถือว่าดีเลย นั่งเล่นได้ ถ้าเป็นสาย socialize ก็ได้รู้จักเพื่อนๆแน่นอน ที่นี่คืนละประมาณ 900 บาท ถ้ามาคนเดียวก็แนะนำเลยนะ สามารถจองได้ใน Agoda เลย
พอเก็บของที่พักเรียบร้อยเราก็ออกมาเดินตะลุยกินที่ Ximending กลับมาไต้หวันทั้งทีคิดถึงบรรยากาศที่นี่และอาหารสุดๆ วันนี้เรากินไปทั้งหมด 4 ร้านคือ Sushi express เป็นร้านซูชิสายพาน อันนี้อร่อยดีและราคาถูก, Xing fu tang มาลองเสี่ยวหลงเปาฉ่ำๆ, บะหมี่อาจง ของดีร้านดัง เป็นรสชาติที่ทำให้คิดถึงไต้หวัน มา Ximen ไม่กินไม่ได้, และไก่ทอด Hot star เราพึ่งเคยลอง ก็อร่อยดีนะแต่เยอะมากกินคนเดียวไม่ไหว
พอตะลุยกินเสร็จก็เดินเล่นไปเรื่อย ดู street show ถ่ายรูปเล่นเอาบรรยากาศไต้หวัน จบวันแรก เที่ยวได้ประมาณนี้ เก็บแรงเพราะวันที่สองจะเหนื่อยมากกก

Day 2 : เที่ยว Keelung แบบเหนื่อยๆ

เช้าวันที่สองเราออกแต่เช้า นั่งรถไฟ TRA ไปลงสถานี Ruifang แล้วนั่งบัสต่อไปเริ่มเที่ยวที่แรกที่ Bitou cape (รถบัสมีหลายสายสามารถใช้ google map ดูได้เลย) กว่าจะมาถึงได้ใช้เวลาไปแล้ว 2 ชม. ที่นี่เป็นอีกหนึ่งที่ที่เห็นรูปแล้วดูอลังการมาก อยากไป แต่ไม่คิดเลยว่ามันจะเหนื่อยขนาดนี้
ต้องบอกว่าตอนแรกกะว่าจะมาเดินชิวๆ ชมวิวถ่ายรูปรับลมเย็นๆ แต่มันไม่ใช่เลยย ที่นี่เป็นเขาสูงที่ทางเดินโหดมาก เป็นเทรลที่ต้องใช้เวลาประมาณ 2 ชม. กับทางเดินชันๆ และด้วยความที่เป็นช่วง summer ที่แดดแรงสุดๆ ทำเอาเกือบจะเป็นลมจริงๆ
โดยรวมมันเป็น landscape ที่สวยเลยนะ ภูเขาและวิวทะเลอลังการมาก แต่ถ้าจะมาถึงต้องเตรียมตัวดีๆเลย และเตรียมใจมาเหนื่อยด้วย และไม่ควรมาช่วง summer นะ มันร้อนจนอันตรายจริงๆ
จาก Bitou cape เรานั่งบัสไปต่อกันที่ Zhengbin fishing village หมู่บ้านหลากสีริมน้ำ มุมมหาชนที่ใครๆก็มาถ่ายรูปกัน ของจริงก็สวยนะ แต่มีตรงนี้มุมเดียวเลย ถ้าเน้นถ่ายรูปอาจจะมาแค่นี้ แชะเดียวจบเลย แต่บ้านสีๆพวกนี้จริงๆก็เป็นคาเฟ่และร้านอาหาร บรรยากาศน่ารักและน่านั่งหลายร้านเลย ถ้ามีเวลาก็แนะนำให้มา
เราก็ต้องมานั่งพักที่นี่ยาวๆเลย หลังจากที่ไปเดินเขาอย่างเหน็ดเหนื่อยมา เข้ามาตากแอร์ในคาเฟ่คือฟินมาก เราเลือกร้าน Yuciren happy waffle ตึกสีเหลือง ร้านน่ารักมากเลย มากินชานมก็อร่อยเลยแหละ
จากนั้นก็ไปต่อกันที่ Heping island park จาก Zhengbin ต้องเดินมานิดหน่อยเพื่อนั่งบัสต่อ จริงๆระยะทางไม่ไกลเลย แค่ 1 กิโลกกว่าๆ ถ้าสะดวกเดินก็ได้นะ
Heping island park เป็นสวนริมทะเล ที่นี่มีค่าเข้านะประมาณ 120 บาท ข้างในก็จะมี 2 โซนหลักๆ คือฝั่งที่เป็น Geopark เป็นสวนหินรูปทรงแปลกตา กับฝั่งสวนน้ำ ซึ่งจริงๆเป็นการล้อมทะเลเพื่อสร้างเป็นสระว่ายน้ำมากกว่า
วันที่เรามาคือบรรยากาศคึกคักมาก โดยเฉพาะฝั่งสวนน้ำ มีคนไต้หวันมาเล่นเยอะสุดๆ แต่ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวที่แค่มาเดินถ่ายรูป เที่ยวฝั่ง Geopark ก็จะเดินๆได้จอยกว่านะ มีทางเดินเลียบผาริมทะเลและมุมถ่ายรูปสวยๆเต็มเลย
ถึงจุดนี้คือเหนื่อยมาก แต่ก็ยังไปเที่ยวต่อจาก Heping เรานั่งบัสไปต่อที่ Chaojing park เป็นสวนสาธารณะริมทะเลที่บรรยากาศดีมากกก โดยเฉพาะช่วง sunset ช่วงนั้นมี music festival อยู่ที่นี่ด้วย บรรยากาศคึกคักและมีชีวิตชีวาสุดๆ ตอนแรกมาแบบไม่ได้คาดหวังอะไร แต่กลายเป็นที่ที่ชอบสุดของวันเลย
ใครมาที่นี่แนะนำว่าให้เดินไปจนสุดแหลมเลยนะ ตรงนั้นเห็น sunset สวยจริง ลมเย็นๆบรรยากาศเยี่ยมจริงๆ วันนี้เที่ยวทั้งวันแบบเหนื่อยๆ เดินไปเกือบ 30,000 ก้าว หลังจากที่นี่ เราก็นั่งรถบัสกลับไทเปพักผ่อนและ จบวันที่สอง

Day 3 : เที่ยวชิวๆในไทเป

วันที่ 3 ถือเป็นวันพักร่างกาย เที่ยวในไทเปแบบช้าๆตามใจอยาก เราเริ่มวันที่ Zhongshan linear park โซนคาเฟ่ชิคๆที่มีสวนอยู่ตรงกลาง ที่นี่มีร้านดีๆเยอะเลยนะ ส่วนใหญ่เป็นคาเฟ่ อาหารเช้า เบเกอรี่อะไรประมาณนี้ คิดว่าเป็นย่านที่สาวๆน่าจะชอบ
ถึงเวลาอาหารกลางวัน เราไปที่ Taipei fish market โซน Addiction aquatic development เคยมาตอนเที่ยวไทเปรอบก่อนแล้วอยากมาซ้ำเลย ที่นี่เป็นตลาดปลาในห้องแอร์แบบไฮโซๆ มีอาหารทะเลสดๆในราคาที่โอเคเลย
จะเลือกกินแบบอาหารกล่องที่เขาทำไว้ก็ได้ อันนี้จะราคาถูกหน่อย แต่ถ้าอยากกินแบบสดๆ แนะนำว่าให้เข้ามาในร้านโซนยืนกินเลย จะเป็น sushi bar ที่เชฟปั้นให้สดๆ สามารถเลือกสั่งเป็นแยกคำ หรือจัดทั้งคอร์สตามเมนูก็ได้ ของเราเลือกเซทนี้มา ราคาประมาณ 700 บาท ใหญ่อลังการมาก อร่อยเหมือนเดิม ประทับใจ
หลังกลับจากตลาดปลาเราก็ไม่ได้ไปเที่ยวไหนแบบจริงจังละ มีไปเดินช็อปที่ Taipei101 นิดหน่อย แล้วก็กลับมา Ximending กินข้าว พักผ่อนเตรียมเดินทางในวันต่อไป

Day 4 : ได้มาสักที Alishan

วันนี้เช็คเอาท์ออกจากที่พักแล้วมุ่งตรงไป Taipei main station เพื่อนั่ง HSR ไปลงสถานี Chiayi แล้วนั่งบัสขึ้นเขาต่ออีก 2 ชม. รถบัสจะมาสั่งหน้าทางเข้าอุทยาน Alishan เลย
จังหวะแรกที่มาถึงเจออากาศเย็นจนงงเลย ถึงแม้จะเป็น summer แต่บนเขาที่มีป่าแน่นๆแบบนี้ก็ทำให้หนาวได้ Alishan เป็นป่าสนที่มาอายุกว่าพันปี อลังการมากๆ แค่แถวๆทางเข้าก็รู้สึกว่าสวยแล้ว
มาถึงก็เก็บกระเป๋า เช็คอินโรงแรม เรามาพักที่ Gau shan shing คืนละ 3,500 บาท ราคาค่อนข้างสูง แต่แลกมากับการได้พักอยู่ตรง visitor center เลย เที่ยวใน Alishan ได้สะดวกมากๆ ในห้องก็ไม่มีอะไรมากนะ แต่ความสะดวกถือว่า 10/10 ที่จริงถ้าใครไม่มีเวลาก็สามารถมา Alishan แบบ day trip ไม่ค้างคืนก็ได้นะ แต่เราว่าไหนๆมาทั้งที นอนสัก 1 คืนกำลังดี
เริ่มเที่ยว Alishan กัน ก่อนอื่นเราไปซื้อตั๋วรถไฟที่ Alishan station ก่อนเลย เราซื้อ 2 ขาคือไป Zhaoping station สำหรับเที่ยววันนี้ กับ Zhushan station สำหรับเช้าวันรุ่งขึ้น อันนี้ถ้าจะนั่งรถไฟไปดู sunrise ต้องซื้อก่อนตั้งแต่วันแรก เพราะพระอาทิตย์ขึ้นตั้งแต่ตี 5 และจะยังไม่มีพนักงานขายตั๋วนะ
สำหรับวันที่ 4 นี้ เริ่มจากนั่งรถไฟจาก Alishan station ไปลง Zhaoping station เอาจริงแค่นั่งรถไฟนี่ก็สวยแล้ว พอมาถึงก็ลงเดินเทรล เราเดินไปทาง Sister pond และโซน Sacred tree แนะนำรูทเดินตามนี้เลยนะนะ เพราะระหว่างทางสวย ได้เห็นวิวหลากหลายครบๆ ระยะทางกำลังดี และส่วนใหญ่เป็นทางลงเขา
Sister pond บ่อน้ำสวยๆ หนึ่งในแลนด์มาร์คของ Alishan จากสถานีรถไฟเดินมาตรงไม่นานก็ถึง ที่เรียกว่า  Sister เพราะมีสองบ่อเป็นพี่น้องกัน สวยทั้งคู่เลย และที่บ่อใหญ่ก็จะมีศาลาทรงจีนอยู่กลางน้ำด้วย ถ่ายรูปสวยดี
เดินต่อไปเรื่อยๆจะเจอโซน Sacred tree ที่มีต้นไม้ยักษ์เต็มไปหมด แต่ละต้นคือใหญ่อลังการมาก และที่สุดทางนี้ก็จะมีสถานีรถไฟ Sacred tree station สามารถนั่งกลับมาที่ Alishan station ได้ รถรอบสุดท้ายประมาณ 4 โมงกว่าๆ ต้องทำเวลา เดินไปถึงตรงนั้นให้ทันนะ
เรานั่งกลับลงมาก็รู้สึกยังเที่ยวไม่เต็มอื่ม เจอแสงสวยๆคิดว่าวันนี้ฟ้าสวยแน่นอน ก็เลยหาจุดชมวิว sunset เราเดินขึ้นไปตามทางประมาณ 10 นาที ก็เจอจุดชมวิวสวยๆอันนี้ ภาพที่เห็นคือทะเลหมอกตอนเย็น เป็นจุดชมวิวที่อยู่เหนือเมฆจริงๆ สวยมากกก เหมือนอยู่บนสวรรค์เลย
พอพระอาทิตย์ตกก็กลับไปพักผ่อน Alishan วันนี้สวยมาก ฟินสุดๆ วันนี้ต้องรีบนอนเพื่อรอดู sunrise พรุ่งนี้กัน

Day 5 : ไปต่อ Sun moon lake

เริ่มวันตอนตี 4 แหกขี้ตามาขึ้นรถไฟไปสถานี Zhushan station นั่งค่อนข้างนานเลยนะ ขึ้นไปบนเขา ตอนเช้าคนเยอะมากก เพราะจริงๆคนที่มานอน Alishan ก็คงมารอดู sunrise กันทั้งนั้นแหละ
ลงรถไฟมาก็เดินไปตามทางไปยังจุดชมวิว มาถึงพระอาทิตย์ขึ้นพอดีแสงกำลังสวย แต่ว่าจุดชมวิวหลักอันนี้คนเยอะมาก มองไปทางไหนเห็นแต่หัวคน เราเลยเลือกเดินไปต่อที่อีกจุดชมวิวหนึ่ง
ถัดมาอีกประมาณ 500 เมตรจะเจอกับที่นี่ ชื่อว่า Ogasawara viewpoint ตรงนี้คนน้อยกว่า และวิวอลังการกว่ามากก ถือว่า complete แล้วสำหรับการเที่ยวเช้านี้ เราก็ดื่มด่ำกับวิวไปเรื่อยจนแสงเริ่มแรง ก็เดินกลับลงมาที่โรงแรม ขากลับไกลหน่อยแต่เดินลงอย่างเดียวก็เลยไม่ค่อยเหนื่อย
ช่วงเที่ยงๆเช็คเอาท์จากโรงแรมมารอขึ้นรถบัส ไปต่อที่ Sun moon lake เป็นบัสวิ่งตรงเลยใช้เวลาประมาณ 3 ชม.กว่า ถ้าใครมีเบอร์ไต้หวันสามารถจองก่อนได้ แต่ถ้าไม่มีก็มา walk in ซื้อตั๋วได้ที่ bus terminal ของ Alishan ได้เลย รถรอบนี้คนไม่เยอะ คิดว่ามีที่ว่างแน่นอน
หลับบนรถบัสไปนานมาก ในที่สุดก็มาถึง Sun moon lake ไปเก็บของที่โรงแรม Yue lake backpacker เราจองที่นี่มาในราคาพันต้นๆ ที่จริงก็มีความเป็นโฮสเทล แต่วันที่เราไปคือห้องว่าง เลยได้ครองพื้นที่ทั้งหมดเลย อยู่สบายมาก
แล้วเราก็ไปเช่าจักรยานขี่ แนะนำว่าให้เช่าข้ามวันไปเลยเพราะราคาไม่ต่างจากรายชั่วโมงมาก มา Sun moon lake ก็ต้องเที่ยวด้วยจักรยานนี่แหละ สะดวกสุดๆ เราก็ไปปั่นรอบทะเลสาบ รูทหลักๆที่แนะนคือเริ่มจากท่าเรือ Shuishe แล้วไปทางขวาเรื่อยๆ
รูทนี้สวยและมีจุดแลนด์มาร์คให้แวะเยอะ ทางจักรยานก็ทำดีมากๆ ปั่นง่ายเลย สุดท้ายให้ไปจบที่ Xiangshan visitor center อันนี้เป็นอาคารสวยๆวิวทะเลสาบ เป็น checkpoint ของนักปั่น ตอนเย็นๆที่ Sun moon lake ก็บรรยากาศดีมาก แสงสวย ประทับใจ จบแล้ววันที่ 5

Day 6 : กลับบ้าน

วันสุดท้ายของทริป เราตื่นแต่เช้ากะว่าจะไปดู sunrise ที่ทะเลสาบ แต่วันนี้ไม่มีโชค ฟ้าครึ้มสุดๆ ก็เลยเดินกร่อยๆแล้วก็กลับห้องไปนอนรอเวลากลับบ้าน
ขากลับเรานั่งบัสจาก Sun moon lake ไปสถานี Taichung แล้วก็นั่งรถไฟ HSR ไป Taoyuan เลย แล้วก็บินกลับกรุงเทพ จบทริปไต้หวัน 6 วันแบบอิ่มๆ
สรุปค่าใช้จ่ายทั้งหมด เป็นค่าโรงแรมทั้ง 3 ที่ประมาณ 7,200 บาท ค่าเดินทางด้วยรถบัสรถไฟ ประมาณ 2,500 บาท และค่ากิน 3,500 บาท รวมๆแล้วประมาณ 13,200 บาทเท่านั้น (แบบไม่รวมตั๋วเครื่องบิน) ส่วนตั๋วนั้นเราได้มาในราคา 4,200 บาท ของ vietjet ราคาดีมากก
จบทริปได้หวันครั้งที่ 2 ของเรา ยังคงชอบเหมือนเดิม เป็นประเทศที่สวย เดินทางง่าย ไปคนเดียวได้แบบไม่รู้สึกยากลำบากอะไร และที่สำคัญคือราคาดีจริง เป็นการเที่ยวที่งบไม่บาน ถ้าใครไปไต้หวัน หวังว่าโพสต์พาเที่ยวนี้จะมีประโยชน์นะครับ :)
รวมดีลไต้หวันจาก kkday ส่วนลดจัดเต็มสูงสุด 90% ดีล 1 แถม 1 ก็มีเพียบ ใครกำลังจะไปไต้หวันลองดูกันได้เลยที่ https://www.kkday.com/th/promo/TaiwanFestival?cid=17219