แนะนำ Travel planner Notion เครื่องมือหนึ่งเดียวสำหรับวางแพลนเที่ยวจากเพจ theworldisoutthere

ขอเริ่มจากที่มาของเจ้าสิ่งนี้ก่อนเลย เราเป็นคนชอบเที่ยวและมักจะรับหน้าที่เป็นคนวางแพลนทริป เราเลยได้ลองใช้เครื่องมือเพื่อจัดการทริปมาหลายตัวตั้งแต่อะไรง่ายๆอย่างการจดโน้ต, Digital template, Excel, Trello แต่ก็ยังเจออะไรที่ถูกใจใช่เลย จนกระทั่งได้มารู้จักกับ Notion นี่แหละ พอเราใช้ Notion เป็นคือจบเลย นี่คือ Ultimate tool ตัวเดียวที่ยอดเยี่ยมที่สุดแล้ว

Notion คือแอพสำหรับการจัดการครอบจักรวาล สามารถจดโน้ตได้เหมือนแอพ Note, ทำ Database ได้เหมือน Excel, แสดงข้อมูลสวยๆได้เหมือน Trello, และสามารถจัดเรียงหน้าต่างๆเองได้เหมือน Website โดยพื้นฐานฟีเจอร์ของ Notion คือการจดโน้ตและจัดการข้อมูลนี่แหละ แต่ด้วยความยืดหยุ่นในการใช้งาน ทำให้เราสามารถออกแบบให้ตอบโจทย์อะไรก็ตามที่ต้องการได้ ถ้าเปรียบง่ายๆคือเหมือน Notion มีชิ้นส่วนเลโก้ดีๆมาให้ ทีนี้ก็อยู่ที่ว่าจะเอาไปต่อเป็นตัวอะไร ซึ่งของเราได้ประกอบร่างขึ้นมาเป็น Travel planner Notion อันนี้นี่แหละ

Travel planner Notion อันนี้เริ่มต้นหน้าหลักที่หน้า Dashboard หน้านี้จะเป็นเหมือนหน้าตั้งต้น ในหน้านี้จะมีแถมเมนูและปุ่มต่างๆอยู่ทางด้านซ้าย ส่วนด้านขวาก็จะแสดงข้อมูลต่างๆที่มีอยู่ ทั้ง Upcoming trip, Past trip, และ Bucket list ถึงตรงนี้อาจมีคำถามว่าแล้วข้อมูลพวกนี้มาจากตรงไหน มันมาจาก Database 5 อันหลักที่เป็นเหมือนกระดูสันหลังของ Travel planner อันนี้นั่นเอง Database 5 อันนี้ได้แก่ Country, City, Trip, Place/Activity, Journal (ลิสต์ 5 อันในส่วน Navigation ตรงซ้ายบน) ทีนี้มาเจาะลึกการทำงานของแต่ละอันกันเลย

Country Database : ในนี้จะมาเป็นรูปแบบตารางที่รวมรายชื่อทุกประเทศบนโลกเอาไว้เรียบร้อย และมีข้อมูลต่างๆอีก 3 column ทั้งแท็กแยกตามทวีป, Checklist ให้เราติ๊กว่าไปมาหรือยัง, และนับจำนวนครั้งที่ไปเยือน โดยจะมีอีก Tab หนึ่งที่สร้างไว้คือ Visited ที่จะแสดงเฉพาะประเทศที่เคยไปมาแล้ว แยกให้ดูตามทวีป

Trip Database : Database อันนี้ถือเป็นพระเอกของเรื่องเลย เข้ามาถึงจะเจอ All trip ในรูปแบบตารางมีข้อมูลต่างๆเช่น Status (อยากไป, กำลังจะไป, ไปมาแล้ว), Travel with (ไปกับใคร), Date (วันไปและวันกลับ),  Days left และ Trip duration (คำนวณให้แบบออโต้จากวันที่ใส่เข้าไป) นอกจากนี้ยังมีข้อมูลประเทศ และเมืองที่ไปในแต่ละทริปด้วย และสามารถเลือกดูข้อมูลในรูปแบบอื่นๆได้ใน Tab ต่างๆที่เราทำไว้ให้แล้ว เช่น Upcoming trip, Past trip และ Timeline

City Database : ในนี้จะค่อนข้าง simple ที่สุดแล้วใน 5 อัน จะมีรายชื่อเมืองที่ไป ลิงค์กับทริปที่ได้ไป พร้อมนับจำนวนครั้งที่ได้ไปเยือนเมืองนั้นๆแบบออโต้ด้วย เราตั้งไว้ให้เรียงลำดับจำนวนครั้งจากมากไปน้อย ก็จะแสดงข้อมูลเหมือนเป็น Leaderboard ตามเมืองที่เราชอบนั่นเอง

Place/Activity Database : จะเป็น Database ที่รวมทุกสถานที่และกิจกรรมเอาไว้ในที่เดียว มีแท็กแยกประเภทให้ สามารถกดเลือกได้ว่าอันไหนเป็น Bucket list ที่อยากไปสุดๆ ในส่วนของ Status ก็จะมีให้เลือกว่าเป็น Wishlist (อยากไป), In plan (อยู่ในแพลนทริปแล้วกำลังจะไป) และ Visited (ไปมาแล้ว) หากสถานที่นั้นเชื่อมกับ Trip แล้วก็จะมีข้อมูลขึ้นมาว่าเป็นของทริปไหน และจะไปในวันไหนของทริปนั้น

ใน Database นี้ยังมี Tab ต่างๆสำหรับเลือกดูข้อมูลได้ เช่น Bucket list ในรูปแบบ gallery view สวยๆ หรือ In plan ที่แยกไว้ให้ตามแต่ละทริป

Journal Database : Database อันนี้จะเป็นส่วนของ Travel journal ทั้งหมด จะมี Journal 4 ประเภท คือ Trip summary (เขียนสรุปหลังจบทริป), My Favorite (เขียนเกี่ยวกับสิ่งที่ชอบ), Learning/Discovery (สิ่งที่ได้ค้นพบและเรียนรู้), Year summary (สรุปประจำปี) โดยแต่ละประเภทเราจะมี Template ในการเขียนเตรียมไว้ให้หมดแล้ว เพียงแค่กดปุ่ม New Journal ขึ้นมา ก็สามารถเลือกได้เลยว่าจะเขียนแบบไหน ในตัวอย่างเราเลือกเป็น Year summary ก็จะมี Template มาให้เป็นแบบนี้เลย

เราได้ผูกโยง Database ทั้ง 5 อันเข้าด้วยกันเพื่อให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเราใช้ Trip Database เป็นแกนหลัก การเชื่อมข้อมูลกันทำให้จัดการทุกอย่างได้ง่ายขึ้นและอัตโนมัติมากๆ ตัวอย่างเช่น ส่วนของ Trip ที่เชื่อมกับ City ก็ทำให้สามารถนับได้ว่าเราไปแต่ละเมืองมาทั้งหมดกี่ครั้งแล้วและไปในทริปไหนบ้าง หรืออย่างที่ Trip เชื่อมกับ Place/Activity ก็ทำให้สามารถแสดงที่เที่ยวและกิจกรรมเฉพาะของทริปนั้นๆ และทำเป็น Trip itinerary สวยๆได้

สำหรับการวางแพลนแต่ละทริป สามารถเริ่มกด New Trip ขึ้นมาได้เลย จากนั้นก็กรอกข้อมูลเบื้องต้น เช่นชื่อทริป ประเทศและเมืองที่ไป วันไป-กลับ จากนั้นให้กดเรียกใช้ Travel planner template ได้เลย

Section ในการวางแพลนทริปทั้งหมดก็จะขึ้นมาตามตัวอย่างเลย จะมีทั้ง Travel itinerary (แพลนการเดินทาง) แสดงข้อมูลแยกตามวันแบบสวยๆ, Must try (Checklist ที่ต้องไปเก็บให้ได้ในทริปนี้), Outfit planner (เอาไว้แปะเรฟหรือวางแพลนชุดในแต่ละวัน), Budget planner (สำหรับวางแพลนงบประมาณ), Pre-travel checklist (สิ่งที่ต้องทำก่อนไปเที่ยว), Packing list (สิ่งที่ต้องเตรียมไป) และอื่นๆ

จากที่อ่านมาทั้งหมด อาจจะมองว่ามันซับซ้อนอยู่บ้าง ยอมรับเลยว่า Notion เป็นแอพที่ไม่ได้ใช้งานง่ายเท่าไรจริงๆนั่นแหละ แต่ถ้าใช้เป็นแล้วมันคือที่สุดในด้านการจัดการแล้ว สำหรับ Travel planner Notion อันนี้เราได้ออกแบบมาให้ใช้งานได้ลื่นไหลและเป็นระบบเชื่อว่าถ้าได้ลองเล่นดูไม่นานก็จะใช้งานได้คล่องเลย

Travel planner Notion ราคา 300 บาท สามารถสั่งซื้อได้ลิงค์ด้านล่างนี้เลย เมื่อซื้อเสร็จแล้วจะมีอีเมลส่งให้พร้อมลิงค์ Travel planner Notion อันนี้ จากนั้นเพียงแค่กด Duplicate ปุ่มเดียว ก็สามารถนำไปใช้งานได้ทันทีเลยยย