บ้านรักไทย ตัวอย่างการพัฒนาสถานที่เที่ยวที่โคตรมีชั้นเชิง
เชื่อว่าหลายๆคนคงเคยได้ยินชื่อเสียงของบ้านรักไทยมากันบ้างแล้วแหละ ช่วงไม่กี่ปีมานี้บ้านรักไทยถือเป็นที่เที่ยวสุดฮอตของแม่ฮ่องสอนเลย วันนี้เราจะไม่ได้มารีวิวบ้านรักไทย แต่จะมาเล่าให้ฟังว่าที่นี่ทำยังไง ถึงกลายมาเป็นสถานที่เที่ยวดีๆ ที่หลายคนอยากไปแบบนี้ได้
เราไปเที่ยวบ้านรักไทยมาเมื่อต้นปีนี้เอง ตอนแรกก็แค่คิดว่าจะไปเที่ยว ถ่ายรูป เขียนรีวิวธรรมดาอย่างเดียว แต่พอได้ไปแล้วมันทำให้เรารู้สึกว่า “ที่นี่แม่งเจ๋งว่ะ” ไม่ใช่แค่ในเรื่องความสวยของสถานที่ แต่เป็นในเชิงของการ craft ประสบการณ์เที่ยวโดยรวมเลย คิดว่าที่นี่เป็น masterpiece อันหนึ่งในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย เลยอยากถ่ายทอดมันออกมาสำหรับคนที่สนใจ
โพสต์นี้เขียนจากประสบการณ์เที่ยวบ้านรักไทยของเรา และการหาข้อมูลเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย หวังว่าจะชอบนะครับ อ่ะ เริ่มเลย
หมู่บ้านรักไทยคือนิยามของคำว่า “สุดขอบประเทศ”ของจริง ที่นี่อยู่ริมซ้ายบนสุดของจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นหมู่บ้านเล็กๆในหุบเขา เดินทางลำบาก และห่างไกลจากโลกภายนอกมากๆ เมื่อก่อนที่นี่เป็นหมู่บ้านที่ค่อนข้างยากจน ชาวบ้านทำการเกษตรหาเลี้ยงชีพทั่วๆไป แต่ด้วยความที่อยู่ห่างไกลมาก การส่งสินค้าไปขายก็เลยลำบาก เมื่อกระจายสินค้ายาก หาลูกค้าไม่ค่อยได้ หมู่บ้านรักไทยก็เลยพลิกวิธีคิด ไปเป็นการเน้นดึงดูดให้ลูกค้ามาซื้อถึงที่แทน โดยใช้ ”ประสบการณ์ท่องเที่ยว” เป็นสินค้าประจำหมู่บ้าน
ว่าด้วยเรื่องการพัฒนาหมู่บ้านรักไทยให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว พระเอกของเรื่องนี้คือ “ลีไวน์รักไทยรีสอร์ท” ที่เริ่มสร้างรีสอร์ทแบบบ้านสไตล์จีนยูนนานในไร่ชา ซึ่งเป็นการ set up theme จุดขายของหมู่บ้าน โดยมีวิสัยทัศน์ที่ไม่ใช่แค่จะสร้างรีสอร์ทอย่างเดียว แต่อยากอัพเกรดให้ทั้งหมู่บ้านรักไทย กลายเป็น “travel destination” ได้จริงๆ
เราว่าจุดขายของหมู่บ้านรักไทยที่เด่นๆมีอยู่ 3 อย่าง
1.)ธรรมชาติ🏔 : ที่นี่ตั้งอยู่บนเขา อากาศหนาวตลอดทั้งปี มีพื้นที่เหมาะกับการปลูกชาสวยๆ มีทะเลสาบอยู่กลางหมู่บ้าน และช่วงเช้าก็จะมีสายหมอกคลอๆบนผิวน้ำสวยมากๆ นี่คือจุดแข็งที่บ้านรักไทยมีมาตั้งแต่แรก และที่นี่ก็สามารถเอามาใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเลย
2.)Soft power🇨🇳 : บ้านรักไทยมีภาพจำคือหมู่บ้านสไตล์จีนยูนนาน ทั้งรีสอร์ท ร้านอาหาร บ้านคน จะคุมตีมเป็นจีนหมดเลย รวมทั้งอาหาร ของที่ระลึกต่างๆก็มีความจีน นี่คือการนำอัตลักษณ์ของชาวบ้านมาเชื่อมกับความสนใจของนักท่องเที่ยว เป็นการใช้ soft power เพื่อสร้าง character ของหมู่บ้านได้ชัดมากๆ
3.)ประสบการณ์🤹🏻♂️ : การจะเป็นที่เที่ยวดีๆได้ ยังไงก็จำเป็นต้องสร้างประสบการณ์ดีๆให้ได้ ที่นี่มีพร้อมทุกอย่างที่นักท่องเที่ยวจะสนใจ ทั้งมุมถ่ายรูปสวยๆ อาหารจีนที่หากินยาก นั่งเรือแบบองค์จักรพรรดิจีน หรือจะเลือกซื้อของฝากเป็นชาหรือบ๊วยแปลกๆกลับไป เรียกได้ว่าเป็นหมู่บ้านที่มีอะไรให้ทำเยอะ ครบครัน ไม่มีเบื่อเลย
นอกจากนี้ลีไวน์รักไทยยังเข้าใจคนใช้ social media และสื่อสารในโลกออนไลน์ได้เก่งมาก เพจของรีสอร์ทมีผู้ติดตามเกินสองแสนคน มีคอนเท้นต์อัพเดทตลอด และสร้าง engagement ได้ดีมากๆ และนอกจากจะมีช่องทางการตลาดของตัวเองแล้ว การที่นักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปโพสต์ในโซเชียล มีการเขียนรีวิว บอกต่อ ก็เป็นการสื่อสารที่ทรงพลังมาก ทางรีสอร์ทเข้าใจสิ่งนี้ และเขาเพียงแค่ต้องเตรียมสถานที่สวยๆ ให้คนอยากถ่ายรูปและบอกต่อ
ปัจจุบันบ้านรักไทยก็เรียกได้ว่าเป็นสถานที่เที่ยวระดับท็อปคลาสจริงๆ มีนักท่องเที่ยวสนใจเยอะมาก แม้กระทั่งระดับดารา เซเลบหลายๆคนก็ยังไปเที่ยวกัน นี่เป็นที่เที่ยวไม่กี่ที่ในไทย ที่ทั้งอยู่ไกล เดินทางลำบาก และไม่ได้เน้นขายความหรูหรา แต่สามารถพัฒนาจนไปจับตลาดระดับบนได้
จากเดิมที่เป็นหมู่บ้านที่ค่อนข้างยากจน ตอนนี้บ้านรักไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวไหลมาเรื่อยๆ และด้วยความที่ที่นี่ถูกพัฒนาโดยคนในชุมชนจริงๆ รายได้นั้นก็กระจายสู่ชุมชน สร้างอาชีพและความภูมิใจให้ชาวบ้านได้จริงๆ
เราว่าในไทยก็ยังมีสถานที่ตามท้องถิ่นต่างๆ ที่สวยน่าเที่ยวอยู่อีกมาก แต่มันอาจยังไม่ได้ถูกการพัฒนาอย่างมีวิสัยทัศน์ และไม่ได้ถูกทำการตลาดที่ดีพอ เราเลยอยากให้บ้านรักไทยเป็นกรณีศึกษา และอยากเห็น tourism development ในไทยแบบนี้อีกเยอะๆ เพราะการบริหารจัดการที่ดี และ storytelling ที่ยอดเยี่ยม สามารถเปลี่ยนให้สถานที่ธรรมดา กลายเป็น travel destination ที่ดีได้ เหมือนกับที่นี่.. บ้านรักไทย