Content pillar ใช้งานยังไง?

Content pillar เป็นหลักการคลาสสิคที่ content creator เกือบทุกคนน่าจะใช้กันอยู่แล้ว มันคือการ grouping content ให้เป็นหมวดหมู่ เพื่อความง่ายในการทำงานจริง แทนที่จะอยู่ในวังวนการคิดคอนเทนต์แต่ละชิ้นจนหลงทาง Content pillar จะทำหน้าที่เป็น “เสาหลัก” ให้เรายึดถือ ถ้าเราวาง Content pillar ของแบรนด์มาอย่างดี คอนเทนต์โดยรวมก้จะสามารถสื่อสารได้อย่างครบถ้วนตามจุดประสงค์ของแบรนด์ได้ไม่ยาก
อยากลองเปรียบ Content pillar เป็นเหมือนการจัดพอร์ตการลงทุน ซึ่งสินทรัพย์แต่ละชนิดมันทำหน้าที่ต่างๆกันไป ทั้งเงินสด หุ้น ทองคำ คริปโต มันก็มีลักษณะความเสี่ยงและผลตอบแทนต่างๆกันไป เวลาจัดพอร์ตก็ต้องเลือก allocate ให้ดี และคาดหวังว่าสินทรัพย์แต่ละอย่างจะทำงานต่างกัน แต่โดยรวมก็เพื่อให้ทั้งพอร์ตเติบโตขึ้น

ในการคิด Content pillar เราต้องเข้าใจก่อนว่าคอนเทนต์แต่ละแบบมีลักษณะยังไง? แล้วเราจะเอามันมาใช้เพื่ออะไร? แล้วค่อย allocate effort ของเราไปในการทำคอนเทนต์ประเภทต่างๆ ซึ่ง Content pillar ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวนะ แต่เราคิดว่ามันมีวิธีการแบ่งได้ 3 แบบตามนี้แหละ

1.แบ่งตาม Content purpose : จุดประสงค์ของ content หลักๆจะมี 4 แบบคือ Entertain, Educate, Convince, Inspire

2.แบ่งตามหัวข้อที่เราอยากสื่อสาร : อันนี้ก็แล้วแต่แบรนด์เลยว่าอยากจะบอกอะไร เช่นเราทำเพจเที่ยว ก็อาจจะแบ่งเป็น เที่ยวไทย เที่ยวต่างประเทศ รีวิวร้านอาหาร เป็นต้น

3.แบ่งตาม Content format : จะเหมาะกับคนที่มี format ในหัวชัดเจนแล้วว่าจะทำแบบไหนบ้าง เช่น Long form, Mini vlog, Q&A, Giveaway เป็นต้น


แล้วเราควรเลือกสร้าง Content pillar แบบไหนดีล่ะ? เราว่ามันต้องเริ่มจากการวิเคราะห์จากกลุ่มเป้าหมายก่อนเลย เราควรจะทำความเข้าใจให้ได้ว่าเขามี pain point อะไร แล้ว content ของเราจะไปช่วยเป็น pain releiver ให้เขาได้ยังไง ยกตัวอย่างเช่น ถ้าทำเพจขายอาหารเสริม แล้ววิเคราะห์ได้ว่าลูกค้ายังไม่รู้จัก product ดีพอ และยังไม่เห็นถึงความสำคัญของสุขภาพที่ดี แบบนี้เราก็อาจเลือกแบ่งแบบ Content purpose แล้วเน้นหนักไปที่ Educate, Inspire เป็นต้น

ลองไปเขียน Content pillar ที่เหมาะกับแบรนด์ของตัวเองกันนะ แล้วมันจะช่วยให้ทำงานง่าย ได้ผลดีขึ้นจริง