สิงค์โปร์ ประเทศที่ให้ความสำคัญกับ Public space
เราพึ่งไปเที่ยวสิงค์โปร์มา หลังจากที่เคยไปครั้งล่าสุดเมื่อ 10 ปีก่อน สิงค์โปร์ก็ยังคงเป็นประเทศที่เราชอบเหมือนเดิม แต่เหตุผลที่ทำให้เราชอบ รอบนี้มันเปลี่ยนไป
เมื่อก่อนเรายังเด็กและตื่นเต้นกับสิงค์โปร์แค่เพราะความสนุกแบบเด็กๆ การได้เที่ยว Universal studio เกาะ Sentosa มหาสนุก หรือสถาปัตยกรรมที่แปลกตาเหมือนมาจากโลกอนาคต ก็ทำให้เด็กคนหนึ่งชอบสิงค์โปร์ได้ไม่ยาก
ผ่านไป 10 ปี เรามาเที่ยวสิงโปร์ตอนโตขึ้น เราไม่ได้ไปเที่ยว Universal ไม่ได้ตื่นเต้นกับตึกรูปทรงแปลกๆ แต่เรามองสิงค์โปร์ในฐานะของเมืองที่น่าอยู่ เมืองที่ผู้คนดูมีคุณภาพชีวิตที่ดี และนั่นทำให้เราชอบสิงค์โปร์ในมุมมองใหม่
ที่จริงความน่าอยู่ของสิงค์โปร์ก็ดูจะมีหลายองค์ประกอบที่ผสมรวมกัน แต่ในฐานะนักท่องเที่ยวที่ได้ไปแตะแค่ 4 วัน สิ่งที่เราเห็นได้ชัดเลยก็คือ เมืองนี้มี Public space อยู่เยอะจริงๆ วันนี้เราจะมาเล่าถึง Public space ของสิงค์โปร์ให้ดูกัน
Public space สำคัญยังไง?
Public space คือพื้นที่เปิด ที่คนในเมืองทุกคนสามารถมาใช้งานได้อย่างไม่มีข้อจำกัด ไม่ว่าจะเป็นทางเดิน สวน หรืออาคารก็ได้ Public space มีส่วนสำคัญที่ให้คนในเมืองได้พักผ่อน ได้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้คน และโดยรวมมันทำให้สังคมน่าอยู่ขึ้น
แน่นอนว่าเมืองอย่างสิงค์โปร์ที่ให้ความสำคัญกับ Human capital ก็ต้องมี Public space มารองรับคนเมืองอย่างเต็มที่ มาดูกันว่าสิงค์โปร์ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ยังไงบ้าง
Marina bay สามารถเดินเล่นได้รอบอ่าว
มาเริ่มกันที่โซนใจกลางอย่าง Marina bay ที่นี่คือเวิ้งอ่าวทีล้อมรอบไปด้วยความยิ่งใหญ่ของเมือง ไม่ว่าจะเป็น Marina bay sands หรือ Financial district
ทั้งๆที่เป็นพื้นที่ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงมากๆ แต่บริเวณริมน้ำ ก็มีทางเดินกว้างๆที่เป็นสาธารณะ ที่ใครก็สามารถมาเดินเล่น ปั่นจักรยานได้รอบอ่าวเลย ไล่ตั้งแต่ Merlion มา Promontgory park ยาวไปถึงบริเวณหน้า Marina bay Sands
หากยอมให้พื้นที่ตรงนี้ถูกเอกชนซื้อไป มันก็คงเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจได้มาก เช่น โรงแรมใหญ่ๆกันพื้นที่ริมน้ำไว้เป็นของเฉพาะลูกค้าโรงแรมเท่านั้น (นี่อาจเป็นสิ่งที่ประเทศไทยชอบทำ) แต่สิงค์โปร์ก็ไม่ทำแบบนั้น และมอบพื้นที่สวยๆนี้ไว้สำหรับทุกคน
ใจกลางย่านธุรกิจ ก้ยังต้องมี Public space
ไม่ใช่เฉพาะ Marina bay ที่คนเที่ยวกัน แต่บริเวณอื่นของเมืองก็มี Public space สอดแทรกอยู่ด้วยทุกที่ ตัวอย่างอันนี้คือบริเวณย่าน Financial district อารมณ์ Wall Street ใน New York
ที่นี่มีแต่ตึกสูงๆ ของธนาคารต่างๆเต็มไปหมด แน่นอนว่าพื้นที่ตรงนี้มีมูลค่ามหาศาล แต่บริเวณตรงกลางนี้กลับเว้นไว้โล่งๆ เป็นสนามหญ้าที่ให้ผู้คนได้ใช้งาน แค่รูปนี้ก็เห็นได้ชัดเลยว่าเมืองนี้ให้ความสำคัญกับ Public space จริงๆ
อาคารสถานที่ต่างๆ เข้าได้ฟรี
Public space ของสิงค์โปร์มีส่วนที่อยู่ในอาคารต่างๆด้วย หลายๆที่ก็เปิดให้ทุกคนได้เข้าฟรีได้เลย มีทั้งอาคารที่เป็นของรัฐอย่าง National Gallery หรือแม้แต่ตึกสำนักงานบางที่ ก็เปิดให้เข้าฟรีเช่นกัน ตัวอย่างที่เราไปคือ Capita Spring
National gallery เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะขนาดใหญ่ ข้างในมี Exhibition จัดแสดงอยู่เยอะมาก ที่นี่ก็เปิดให้ทุกคนเข้าดูฟรีได้เลย
Capita Spring อันนี้แอบตื่นเต้นกว่าเพราะเป็นอาคารสำนักงาน แต่กลับทำพื้นที่สวนในอาคาร และจุดชมวิวชั้นดาดฟ้าสวยๆ และเปิดให้ทุกคนเข้าฟรี ที่นี่เหมาะกับเป็นสถานที่พักผ่อน ท่ามกลางความทึบของตึกคอนกรีตที่ล้อมทุกด้าน เอาจริงคือทำดีมากจนจะเก็บเงินค่าเข้าก็ได้ แต่เขาก็เปิดให้ฟรี
Garden by the bay สวนหลังบ้านของเมือง
นี่คือโซนที่เราชอบมากของสิงค์โปร์ Garden by the bay และ Marina barrage ที่นี่เป็นเหมือนสวนหลังบ้านของทั้งเมือง
ที่นี่เป็นสวนขนาดใหญ่และมีอะไรให้ทำเยอะมาก ทั้งเดินเล่น ปั่นจักรยาน เดินดูต้นไม้ ปิคนิค โดยรวมที่นี่ไม่ใช่มีไว้เฉพาะนักท่องเที่ยว แต่คนสิงค์โปร์ก็มาใช้งานกันจริงจังมากๆ
การเดินเที่ยวที่นี่ทำให้เราได้เห็นชีวิตของคนสิงค์โปร์เยอะมาก โดยเฉพาะตรง Marina barrage ที่เป็นพื้นที่เปิดโล่งวิวสวย ตอนเย็นๆมีคนสิงค์โปร์มากันเยอะ และบรรยากาศมันดีจริงๆ
ที่นี่ทำให้เรารู้สึกอิจฉาชีวิตของคนสิงค์โปร์หน่อยๆ รู้สึกว่าในวันที่เหนื่อยๆ ยังไงเขาก็ยังคงมีสถานที่แบบนี้ไว้ผ่อนคลาย ไว้นั่งเล่นพูดคุยกับคนรอบตัว เรารู้สึกว่าพื้นที่แบบนี้แหละ ที่ทำให้เมืองใหญ่ที่เย็นชาดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาได้
เมืองที่ใครๆก็ออกกำลังกาย
4 วันที่เราเที่ยวสิงค์โปร์ สิ่งหนึ่งที่เราเห็นอยู่ตลอดคือ ทุกคนดูจะออกกำลังกายกันแบบ active มาก ไม่ว่าจะวิ่ง ปั่นจักรยาน สเก็ตบอร์ด พายเรือ หรือวอลเล่บอลชายหาด
มันเยอะมากๆจนเรางงว่า ทำไมเมืองนี้ทุกคนดูรักสุขภาพกันจังเลย วันสุดท้ายของทริปเราเลยลองเช่าจักรยานขี่ดู เพราะอยากลองเป็นชาวเมืองสิงค์โปร์ดูบ้าง
เราปั่นตั้งแต่ Garden by the bay อ้อมไปทาง Marina east ไปจนถึง National Stadium และวนกลับมาที่ Marina bay Sands รวมเป็นระยะทางประมาณ 11 km
เอาจริงคือเหนื่อยมาก แต่มันก็ทำให้เรารู้ว่า เมืองนี้มันถูกออกแบบมาให้คนออกกำลังกายจริงๆ แค่ทางจักรยานก็มียาวตลอดทุกที่ของเมืองแล้ว
เราเลยเข้าใจว่าที่คนสิงค์โปร์ออกกำลังกายกันเยอะ ก็เพราะว่ามันง่ายและดีมากนี่เอง ทุกอย่างมันอำนวยให้คนสุขภาพดีแล้ว การเป็นคน inactive ไม่ออกกำลังกายดูจะเป็นเรื่องฝืนๆสำหรับสิงค์โปร์เลยแหละ
และนี่ก็คืออีกความสำคัญหนึ่ง ของการมี Public space ที่ดี
การมาเที่ยวสิงค์โปร์ในรอบนี้ จากที่เห็นทำให้เรารู้สึกว่าคุณภาพชีวิตคนสิงค์โปร์ค่อนข้างดีจริงๆ แค่เรื่อง Public space ของเมืองนี้ก็ยอดเยี่ยมแล้ว
ในการออกแบบเมือง ความสำคัญของ Public space อาจไม่ได้ให้ผลเป็นตัวเลขทางเศรษฐกิจอะไรเลย แต่มันอาจทำให้ผู้คนในเมืองมีความสุข มีสุขภาพกายและจิตใจที่ดี
แล้วมันจึงค่อยสะท้อนออกมาเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ รวมถึงการมี prodcutivity เพิ่มขึ้นด้วย
เราเชื่อมากว่าความเจริญของสิงค์โปร์ และหลายๆประเทศ มันมีเกิดมาจากการที่ผู้คนมีคุณภาพ และการใส่ใจกับคุณภาพของคน ก็เกี่ยวข้องโดยตรงกับการออกแบบเมืองให้คนอยู่ได้อย่างมีความสุข
นี่คือประเทศที่ให้ความสำคัญกับ Public space นี่คือสิงค์โปร์ที่เราชอบในมุมมองใหม่ ไม่ใช่ในฐานะเมืองน่าเที่ยวเพียงอย่างเดียว แต่ในฐานะเมืองน่าอยู่ที่รู้สึกได้จริงๆ :)
หากสนใจสั่งซื้อสินค้าของเพจเรา สามารถดูรายละเอียดได้ที่ Theworldisoutthere shop